ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเดินทางมาจนถึงภาคที่ 4 แต่ “Underworld Awakening สงครามโค่นพันธุ์อสูร 4 กำเนิดใหม่ราชินีแวมไพร์” ก้าวข้ามความสำเร็จกลับมาผงาดได้ยิ่งใหญ่พร้อมความมันส์สะเด็ดกินขาดทุกภาคที่ผ่านมา เพราะอัดแน่นไปด้วยความสนุกในระดับฮาร์ดคอร์ ภายใต้การถ่ายทำด้วยเทคนิคและโปรดักชั่น 3D ล้ำสมัย เพิ่มความมันส์สะใจด้วยการเชื่อมโยงฉากต่อสู้ระหว่าง 2 เผ่าพันธุ์ตั้งแต่อดีตนับพันปีมาจนถึงโลกปัจจุบันได้อย่างลงตัว พร้อมการกลับมาทวงบัลลังก์ราชินีแวมไพร์ของ “เคท เบคคินเซล” ซึ่งภาคนี้เธอเป็นคุณแม่ยังสาวที่สวยและเซ็กซี่ร้อนแรง แถมด้วยความแข็งแกร่งที่มากขึ้นพร้อมกับภาระหน้าที่ในการปกป้องเผ่าพันธุ์รวมถึงลูกสาวสายเลือดผสมแวมไพร์-ไลแคนจากศัตรูตัวฉกาจ ไลแคนยักษ์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้โหดร้ายที่สุดในโลกของ Underworld
มาร์ลินด์และสไตน์ (ผู้กำกับภาพยนตร์) เล่าว่า “Underworld Awakening เกิดขึ้นในสิบห้าปีหลังจากตอนจบของ Underworld Evolution (ภาคที่ 2) เราเพิ่มตัวละครเพื่อความสดใหม่ แต่ก็ยังไม่ทิ้งคุณลักษณะเด่นของนักรบทั้งสองเผ่าพันธุ์ คือแวมไพร์ก็ยังคงเป็นด้านมืดที่เซ็กซี่ ในขณะที่มนุษย์หมาป่า ชื่นชอบการทำลายล้างและเนื่องจากเราได้สร้างมาตรฐานไว้สูงในภาคก่อน ๆ ภาคนี้จึงเลือกใช้ระบบ 3D ชั้นสูงช่วยให้ภาพเฉียบคมเสมือนมองจากตามนุษย์จริง ๆ เพื่อเพิ่มดีกรีความมันส์ให้อยู่ในระดับฮาร์ดคอร์ อย่างไลแคนเราก็สร้างให้สูงถึง 12 ฟุต หนัก 1,200 ปอนด์ร้ายกาจที่สุดในประวัติกาล และที่ขาดไม่ได้เลยคือ “เคท เบคคินเซล” แม้จะไม่ได้แสดงในภาคก่อน แต่แค่สวมชุดลาเท็กซ์สีดำแนบเนื้อและจับปืน เธอก็ต่อติดบท “เซลีน” ได้ง่ายดาย เป็นการพิสูจน์ให้เราเห็นว่าเธอคือราชินีแวมไพร์ตัวจริง และผมก็เชื่อว่าแฟน Underworld ก็จะคิดเหมือนพวกเราครับ”
“Underworld Awakening สงครามโค่นพันธุ์อสูร 4 กำเนิดใหม่ราชินีแวมไพร์” ในรูปแบบ 3D จะตระการตา ตระการใจกว่าทุกภาคที่ผ่านมาแค่ไหน ร่วมพิสูจน์กันได้แล้วทุกโรงภาพยนตร์
